บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2023

นิสัย

รูปภาพ
  นิสัย   Cr.Canva 1. [1] ทุกคนต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่อยากประสบความสำเร็จ แต่ไม่มีใครอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง [2] คำกล่าวของ -คนที่อยากประสบความสำเร็จแต่ลงมือทำแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะหาความสำเร็จได้ที่ไหน?- ประโยคนี้ยังใช้ได้กับคนทุกยุคทุกสมัย เพราะอะไร ? [3] นั่นเพราะคุณทำมันแค่ประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็ล้มเลิกกลางคันยังไงล่ะ [4] อ้าว...แล้วเราไม่มีวิธีที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ประสบความสำเร็จบ้างเลยเหรอ ? [5] คำตอบ คือ มี แต่มันจะไม่ง่ายเหมือนที่คิดไว้หรอกนะ   2. [6]  คนที่อยากมีสุขภาพดีก็ต้องออกกำลังกาย ฉันใด คนที่อยากประสบความสำเร็จก็ต้องทำอะไรให้สม่ำเสมอ ฉันนั้น [7] แล้วต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไง ชีวิตถึงเปลี่ยน ? [8] คำตอบก็คือ “วินัยสร้างนิสัย” ยังไงล่ะ [9] แต่คุณรู้มั้ยว่า วินัยทำจนให้เกิดเป็นนิสัยนี่แหละ ที่เปลี่ยนยากที่สุด   3. [10] ว่ากันว่า “การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอมันจะกลายเป็นนิสัย” [11] ดังนั้นหากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ไม่ใช่ทำแค่อาทิตย์สองอาทิตย์แล้วหวังว่ามันจะประสบความสำเร็จ [12] คุณก็รู้นี่ว่า “การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอมันจะกลายไปเป็นน

เด็กกลัวผี

รูปภาพ
  เด็กกลัวผี Cr.Canva   1.  [1] "ตกกลางคืนผีจะมาหลอกเอานะ"  [2] คำกล่าวของ -ผู้ใหญ่ที่ชอบหลอกเด็กให้กลัว- ประโยคนี้ยังมีผู้ใหญ่บางคนใช้กับเด็ก เพราะอะไร ?  [3] นั่นเพราะผู้ใหญ่เอาไว้ขู่เด็กไม่ให้ดื้อยังไงล่ะ   [4] อ้าว...แล้วถ้าเด็กกลัวผีจนไม่สามารถอยู่คนเดียวในตอนกลางคืนละ ?  [5] คำตอบ คือ อย่าไปหลอกเด็กให้กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น เช่นผี   2.  [6] คนไม่เคยโดนหมากัดแต่ก็ยังกลัวหมา ฉันใด เด็กไม่เคยเห็นผีแต่ก็ยังกลัวผี ฉันนั้น [7] แล้วต้องทำอย่างไรให้เด็กเชื่อฟัง ?  [8] คำตอบก็คือ “บอกโทษและประโยชน์ของการกระทำให้เด็กได้รับรู้” ยังไงล่ะ   [9] แต่คุณรู้มั้ยว่า การบอกโทษและประโยชน์ที่เด็กได้กระทำยากที่สุด ไม่ใช่ “หลอกเด็กเรื่องผี” แต่เป็น “โทษและประโยชน์ของการกระทำ” นี่แหละ   ต้องทำให้เห็น 3.  [10] ว่ากันว่า “ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าหลอกให้เด็กกลัว”   [11] ดังนั้นหากคุณต้องการให้เด็กเชื่อฟังคุณจะต้องทำตัวอย่างที่คุณต้องการให้เด็กเห็น ไม่ใช่หลอกให้เด็กกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น   [12] คุณก็รู้นี่ว่า “การทำตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็นโทษหรือประโยชน์ของมันย่อมดีกว่าหลอกให้เด็กกลัวผี” จริงมั้ยค

ภาษาอังกฤษในไทยกับภาษาอังกฤษในออสเตรเลีย

รูปภาพ
  Cr Pixabay  ย้อนไปเมื่อสมัยทำงานในประเทศไทย เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานเป็นคนอินเดีย หนีไม่ได้เลยกับภาษาที่จะต้องใช้ในออฟฟิศ ก็คือภาษาอังกฤษนั่นเอง  พี่จวนจ้าจากที่พูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้ การที่เราได้คุยภาษาอังกฤษกับเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น  จากนั้นมาพี่จวนจ้าคิดว่าภาษาอังกฤษเราก็พอได้นะ แต่เมื่อได้มาอยู่ที่ออสเตรเลียกลับฟังประโยคบางประโยคไม่เข้าใจเอาเสียเลย   คนที่ออสเตรเลียเขามักจะพูด Please ท้ายประโยคเสมอ เช่น ถ้ามีใครถามว่าเธอต้องการน้ำมั้ย ปกติถ้าอยู่ที่ไทยเราจะตอบว่า yes เฉย ๆ พี่จวนจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ตอบคนออสเตรเลียว่า yes จนสามีต้องสะกิดบอกว่า yes please กรุณาอย่าตอบห้วน ๆ แบบนั้น ว่าซ้านนนน  อย่างปกติอยู่ที่ไทย  can i have a bottle of water ? ฉันขอน้ำหน่อยได้มั้ย? แต่ที่ออสเตรเลียต้องมี Please ลงท้ายเสมอ เพื่อความสุภาพ  can i have a bottle of water please    ใหม่ ๆ พี่จวนจ้ามักจะลืม Please ลงท้ายเสมอ ไม่ผิดหรอกนะคะ แต่มันไม่สุภาพนั่นเอง นี่ยังไม่รวมคำแสลงอีกนะคะ พี่จวนจ้ายัง “งง” กับ “คำแสลง” อยู่  คำแสลง คืออีกหนึ่งสิ่งที่คนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภ